การพัฒนาโครงการ Revival: การกำเนิดใหม่ของโรงแรมและคาสิโน Harrah’s Reno
เป็นเวลาหลายปีที่โรงแรมและคาสิโนเก่า Harrah’s Reno ยังคงว่างเปล่าอยู่เป็นเครื่องเตือนที่เงียบของความเจริญของตนในใจกลางเมือง Reno
ทางแยกที่ยาวนานสู่ “การฟื้นฟู”
ห้าปีหลังจากที่ทรัพย์สินถูกขายออกเป็นส่วนหนึ่งของการผสมกันระหว่าง Caesars Entertainment และ Eldorado Resorts มุมมองใหม่สำหรับโรงแรมที่มีห้องพัก 928 ห้องและพื้นที่คาสิโนกว้าง 40,000 ตร.ฟุต กำลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
มีความยาวนานของการก่อตั้งใหม่เป็น “Reno City Center” โดยผู้พัฒนาจากลาสเวกัส คริส บีเวอร์ และ CAI Investments ในราคา 41.5 ล้านเหรียญ แต่แผนการของบีเวอร์ล้มเหลวเนื่องจากการตกลงทางการณ์ที่เกิดขึ้นจากโรคระบาด ค่าแรงงานที่เพิ่มขึ้น และการเงินที่เติบโต
ในปี 2023 ทรัพย์สินได้มีการเปลี่ยนมืออีกครั้ง โดยที่ฟรอฟอนได้ซื้อไป แต่การครอบครองใหม่ไม่สามารถสร้าง “Reno City Center” ได้
เดือนที่แล้ว มีการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่เมื่อ Madison Capital Group ที่มีบ้านกำกับอยู่ที่ชาร์ลอต ได้เข้ามารับบทบาทในโครงการที่มีปัญหาเป็นส่วนใหญ่เนื่องจากการโครงสร้างในภาคต้นของรัฐบาล 11
ไม่มีการเดินลูกเต๋าอีกต่อไป
ใจกลางเมือง Reno กำลังประสบกับคลื่นการพัฒนาที่นำโดย Jacobs Entertainment ที่กำลังจะเปลี่ยน Sands Regency เป็น J Resort และโครงการที่ท้าทายอย่าง “Reno Neon Line”
แค่ 3 บล็อกทางตะวันออกของเส้นทางนี้ ที่ตั้งของโรงแรมเก่า Harrah’s กำลังจะถูกวางแผนใหม่เป็น “Revival” โครงการผสานการใช้ประโยชน์ที่จะนำพลังงานใหม่เข้ามาในเมือง
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่โรงแรมเก่านี้จะถูกสร้างใหม่ “Revival” จะไม่ทำการเดินลูกเต๋าอีกต่อไป เนื่องจากจะไม่อนุญาตให้มีการเล่นการพนันใดๆ
แทนที่นั้น มีห้องพัก 300 ห้องที่มีราคาตลาด ที่พักสำหรับบริษัท โรงแรมที่ออกแบบใหม่ พื้นที่สำนักงาน ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร บาร์ และสถานที่ขายของชำ
ส่วนที่สำคัญ พื้นที่ล่างของพลาซ่ากลางเมืองจะถูกใช้ในการรวมรวมองค์ประกอบเหล่านี้เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างศูนย์ชุมชนที่มีชีวิตชีวา
“เราตื่นเต้นที่จะเริ่มต้น Revival โครงการที่สร้างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นวิถีแหวนให้กับทรัพย์สินที่มีความสำคัญตั้งแต่เดิมของคุณสำหรับอนาคต เรากำลังเปลือยชีวิตใหม่ให้กับทรัพย์สินหลักนี้ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในกระบวนการฟื้นฟูที่ยังคงของใจกลางเมือง Reno เพิ่มเติมเสริมสร้างว่าที่เป็นหนึ่งในเมืองชั้นนำสำหรับการอาศัย การทำงาน และการเยี่ยมชม” ระบุราน แฮงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริษัทแมดิสันแคปิตอลกรุ๊ป
โรงแรม Harrah’s Reno ถูกก่อตั้งโดยวิลเลี่ยม เอฟ. ฮาร์ราหลังจากที่เปิดเป็นราชการเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2512 ในช่วงหลายทศวรรษ มันเจริญเติบโตเป็นแขนงการพนันระดับโลก ที่ขึ้นรหัสไปยังสาธารณสุขในปี 2514 และภายหลังได้รับการจัดซื้อโดย Holiday Inn ในราคา 300 ล้านเหรียญหลังจากการตายของฮาร์ราในปี 2514
บริษัทได้รับการขยายอย่างสำคัญ โดยการเปลี่ยนชื่อเป็น Harrah’s Entertainment ในปี 2528 และภายหลังมีการจัดซื้อ Caesars Entertainment ในราคา 10.4 พันล้านเหรียญในปี 2538 ในปัจจุบัน ชื่อ Harrah’s ยังคงมีอยู่ในทั้งหมด 17 ที่ในทั่วโลก และมรสกล่าวขวานของเจ้าของค่าย วิลเลี่ยม เอฟ. ฮาร์รา ประจำคณะการรับรองความสนุกสนานที่ UNLV ที่ได้รับการสนับสนุนด้วยเงินบริจาคจากภรรยาของเขา แวร์นา เฮอรราม ที่มีค่า 5 ล้านเหรียญ
การฟื้นฟูและการพัฒนาใหม่ใน Reno City Center
การฟื้นฟูโครงการ Harrah’s Reno เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาใหม่ใน Reno City Center ที่มุ่งเน้นการสร้างชุมชนที่มีชีวิตชีวาและสร้างความมั่นคงในเวทีการท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์ในเมือง Reno โดยอ้างอิงจากความต้องการของนักท่องเที่ยวที่ต้องการประสบการณ์ที่มีคุณภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบวงจร
การอสังหาริมทรัพย์ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่สำคัญในเมือง Reno ทำให้มีโอกาสในการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นประโยชน์ไม่เพียงแต่สำหรับนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังสร้างโอกาสในด้านการงานและการลงทุนในเขตเมือง
การเชื่อมโยงระหว่างโรงแรมและชุมชน
โครงการ Revival มุ่งเน้นการเชื่อมโยงระหว่างโรงแรมและชุมชนโดยการสร้างพื้นที่สำหรับการทำงาน เรียนรู้ และพัฒนาตัวเอง ทำให้เกิดโอกาสในการสร้างสถานที่ที่เปิดกว้างและเป็นประโยชน์แก่ชุมชนท้องถิ่น
การจัดสร้าง Revival ไม่เพียงเตียมที่จะเข้าไปให้เป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบการท่องเที่ยวในเมือง Reno เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความเชื่อมโยงและความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งกับชุมชนท้องถิ่นและผู้ที่ดำเนินธุรกิจในพื้นที่นี้
การกำหนดแนวทางใหม่สำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน
การพัฒนาโครงการ Revival ไม่เพียงเป็นการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์ที่ทันสมัยและมีคุณภาพ เท่านั้น แต่ยังเป็นการกำหนดแนวทางใหม่สำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนที่สนับสนุนการเจริญเติบโตของเมือง Reno ในระยะยาว
ด้วยการรวมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญและนักลงทุนท้องถิ่น เราสามารถเปิดประตูให้กับโอกาสในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ ที่จะสร้างประโยชน์ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในชุมชน